คำถาม คำตอบ เกี่ยวการวิธีปฏิบัติ และสภาวธรรมในการปฏิบัติ
23 มิ.ย. 2568
หลวงพ่อครับ ช่วงหลังจิตตื่นรู้เกือบตลอดวัน แม้ขณะนอนมันก็ตื่นรู้เอง เห็นขันธ์ห้าเกิด-ดับ เห็นผู้รู้เกิด-ดับ ..จิตอยู่กับอุเบกขา ..ผลที่ได้คือ สติสัมปชัญญะในมหาสติ หรือจะเรียกว่าเหลือแต่มหาสติกับปัญญาในฐานจิตก็ได้
23 มิ.ย. 2568
กราบนมัสการครับ พอจิตเข้าสู่ทางสายกลางที่ฐานจิต.. มันจะเห็นขันธ์ห้าเกิดดับและผู้รู้เกิดดับ จิตที่ตั้งอยู่ตรงกลาง ระหว่างผู้รู้และขันธ์ห้า ในมหาสติ จะอยู่แค่ปัจจุบัน ..จะไม่ดึงอดีตหรืออนาคตมาดังนั้นเรื่องราวที่เป็นภาระทางโลกที่จำเป็นต้องทำทีหลังจึงถูกเพิกออกทำให้เหมือนลืมแต่แท้จริงแล้ว มันเพิกออกจากทั้งสภาวธัมม์ในทางสายกลางและเพิกออกเพราะจิตน้อมสู่สภาวะดิ่งลงภวังค์จิต มันเหลือแค่มหาสติกับปัญญาในปัจจุบันสภาพธัมม์จะตั้งมั่น ขยายออกเอง โดยไม่ต้องไปทำอะไรเหมือนไม่ต้องทำอะไร แค่อยู่ในทางสายกลางที่ประกอบองค์มัคค์ ..สำหรับทางโลกคง ต้องจดบันทึก ไม่อย่างนั้นจิตจะเพิกเรื่องราวออกไปครับ
29 พ.ค. 2567
มีคนถามว่า เกิดความลังเลสงสัย รู้สึกเหมือนมีสภาวธัมม์เกิดจริง แต่ก็มีความคิดว่าจริงหรือเปล่า พอดูจิตก็เหมือนถูกดึงกลับเข้ามา ความสงสัยก็หายไป สลับกันไปอย่างนี้ครับ
4 ก.พ. 2567
กราบเรียนถามพระอาจารย์ว่า ทำอย่างไร เราถึงจะเรียกว่า รู้เท่าทันอารมณ์ของตัวเอง จะได้มีสติระลึกรู้อยู่ตลอดเวลาคะ
22 มี.ค. 2565
ที่สุด เราต้องจากกัน ที่เจอกัน เพื่อจะจากกัน พวกเราเป็นนักท่องเที่ยว ท่องเที่ยวในวัฏฏสงสารอันยาวนาน
21 มี.ค. 2565
พอเราได้ฝึกจิต รู้สึกไปที่กลางหน้าอกบริเวณลิ้นปี่เนืองๆ มีที่พึ่งที่เกาะภายใน เหมือนคนจะจมน้ำ แต่มีห่วงยางเกาะไว้ ไม่จมไปในห้วงน้ำ ถึงว่ายไม่เก่ง แต่ก็ไม่จม
12 มี.ค. 2565
จับหลักตรงนี้ก่อน.. จิตก็อยู่ส่วนจิต ความคิดก็อยู่ส่วนความคิด จิตไม่ใช่ความคิด ความคิดไม่ใช่จิต
5 ธ.ค. 2564
รู้สึกไปที่ ฐานทั้ง 4 เราตามรักษาจิตไปเนืองๆ เราดูจิตไปใน ฐานทั้ง 4 คือ กายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต ธัมม์ในธัมม์
22 พ.ย. 2564
มารผู้มีใจบาป เป็นทุกข์ เสียใจว่าพระผู้มีพระภาค "ทรงรู้จักเรา" จึงได้หายไปในที่นั้น
27 ก.พ. 2564
กราบนมัสการครับ ตอนที่มานั่งปฏิบัติในห้องปฏิบัติ เราก็สามารถที่จะทำใจให้สงบได้ แต่เราไปเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งเราอาจจะไม่มีสมาธิ สุดท้ายเราจะ เตลิดเปิดเปิงไป ยังไม่มั่นใจว่า จะกลับมารู้สึกที่จิต ได้หรือเปล่าครับ